แจ็คผู้ฆ่ายักษ์? เปิด4เหตุผล ดอร์ทมุนด์ จะดับ เรอัล มาดริด ซิวยูซีแอล

โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มีคิวจะกรำศึกสำคัญดวล เรอัล มาดริด ในนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในช่วงค่ำคืนวันเสาร์นี้ที่สนามเวมบลีย์ ซึ่งดูตามหน้าสื่อแล้วเกมนี้ "ราชันชุดขาว" ถูกยกให้เป็นต่อทุกกระบวนท่า


อย่างไรก็ตาม "เสือเหลือง" มีโอกาสกลายเป็น "แจ็คผู้ฆ่ายักษ์" ได้เช่นกัน วันนี้เราจึงรวบรวม 4 เหตุผลที่ ดอร์ทมุนด์ จะสามารถกำราบแชมป์ยุโรป 14 สมัยลงได้ 




ดอร์ทมุนด์-เรอัล มาดริด แชมป์รับแค่ไหน?เปิดขุมทรัพย์เงินรางวัลชปล.

ดอร์ทมุนด์ พบ เรอัล มาดริด: ยักษ์จะยังคงเป็นยักษ์ หรือว่าแจ๊คจะมาฆ่ายักษ์

ดอร์ทมุนด์ พบ เรอัล มาดริด: หน้าเสื่อของราชันชุดขาวจะพลิกมั้ย

4.ฝ่าด่านหินมาตลอด


ดอร์ทมุนด์ ไม่ได้ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศมาด้วยความบังเอิญแต่อย่างใด เพราะอย่าลืมว่าพวกเขาเริ่มต้นด้วยการถูกจัดอยู่ในกรุ๊ป ออฟ เดธในรอบแบ่งกลุ่ม ร่วมสายเดียวกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง, เอซี มิลาน และ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 




แม้ว่าทัพ "เสือเหลือง" จะแพ้ต่อ เปแอสเช ในนัดประเดิมสนาม แต่ลูกทีมของ เอดิน เทอร์ซิช ก็ค่อยๆ มีผลงานที่ดีขึ้นตามลำดับก่อนจะผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ได้ในท้ายที่สุด 


ดอร์ทมุนด์ ฝ่าด่าน พีเอสวี ในรอบ 16 ทีสุดท้ายด้วยสกอร์รวมสองนัด 3-1 ก่อนจะมาปราบ แอตเลติโก มาดริด ได้แบบสุดเซอร์ไพรส์ด้วยสกอร์รวม 5-4 และจัดการขยี้ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่เต็มไปด้วยสตาร์แบบไม่เสียประตูด้วยสกอร์รวม 2-0 ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าพวกเขาเป็นม้ามืดที่พร้อมจะหักด่านทีมใหญ่ได้ทุกทีม 




3.แนวรับแข็งโป๊ก




แม้ว่าเกมนี้แนวรับของ ดอร์ทมุนด์ จะต้องเจอกับงานหนักในการรับมือแนวรุกสุดอันตรายของ เรอัล มาดริด ทั้ง วินิซิอุส จูเนียร์, โรดรีโก้ และ จู๊ด เบลลิงแฮม ที่น่าจะสร้างความปั่นป่วนอย่างหนัก 


อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าเกมรับของ ดอร์ทมุนด์ กลายเป็นจุดแข็งของพวกเขาในซีซั่นนี้ โดยสามารถเก็บคลีนชีตได้ถึง 6 นัดในรายการนี้ ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1997/98 เลยทีเดียว 


สำหรับหนึ่งในเกมที่เห็นได้เด่นชัดมากที่สุดคือการไม่เสียประตูทั้งสองเกมในการเจอ เปแอสเช ที่มีแนวรุกสุดอันตราย ในรอบตัดเชือก ซึ่งต้องยกความดีความชอบให้กับ มัตส์ ฮุมเมิ่ลส์ ที่โชว์ฟอร์มสุดยอดคว้าแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ได้ทั้งสองนัด โดยยืนจับคู่กับ นิโค ชล็อตเทอเบ็ค ได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ยังมีนายด่านอย่าง เกรเกอร์ โคเบล ที่ไว้เนื้อเชื่อใจได้อีกด้วย


2.แนวรุกจัดจ้าน 


นอกจากเกมรับที่แข็งแกร่งแล้วนั้น ดอร์ทมุนด์ ยังมีเกมรุกที่น่าตื่นตาตื่นใจในซีซั่นนี้ เริ่มตั้งแต่กองหน้าอย่าง นิคลาส ฟุลล์ครุก หอกทีมชาติเยอรมันที่เป็นดาวซัลโวของทีมในรายการนี้จากการซัดไป 3 ประตู ซึ่งนแกจากการทำประตูแล้ว ความแข็งแกร่งของเขายังสามารถพักบอลได้ดีและสร้างประโยชน์ให้เพื่อนร่วมทีมได้มาก 


นอกจากนี้การได้ เจดอน ซานโช่ เข้ามาร่วมทีมด้วยสัญญายืมตัวนั้นสามารถเข้ามาสร้างความหวือหวาให้แรวรุกของทีมได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะความเร็วของเขาที่จะมีประโยชน์มากในจังหวะสวนกลับ 


ขณะเดียวกันยังมีทั้ง ดอนเยลล์ มาเลน, คาริม อเดเยมี่, มาร์โก รอยส์ และ ยูเลี่ยน บรันด์ท ที่แนวรับ มาดริด จะประมาทไม่ได้เลย 


1.ปิดฉาก มาร์โก รอยส์ ที่สมบูรณ์แบบ 


แน่นอนว่าอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของเกมนี้คือการสั่งลานัดสุดท้ายของ รอยส์ กับ ดอร์ทมุนด์ ว่าจะปิดฉากได้อย่างสวยงามหรือไม่ หลังจากเจ้าตัวเคยผิดหวังมาแล้วในการพา "เสือเหลือง" เข้าชิงเมื่อปี 2013 ก่อนจะแพ้ บาเยิร์น มิวนิค ที่สังเวียนเวมบลีย์ 


จนมาถึงตอนนี้ รอยส์ มีโอกาสที่จะลบฝันร้ายอีกครั้ง และเชื่อว่าหากแฟนๆได้เห็นภาพของดาวเตะเลือดเบียร์ชูถ้วยใบโตรายการนี้ได้สำเร็จคงจะเป็นภาพในฝันของแฟนบอลหลายๆคน 


อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง


发表评论:

◎欢迎参与讨论,请在这里发表您的看法、交流您的观点。