ต้องชนะเยอะเข้าไว้! คาด 11 ตัวจริง ทีมชาติไทย พบ สิงคโปร์ คัดบอลโลก

   ในเกมกับจีน ปฏิวัติ ทำผลงานได้ดีเยี่ยม ทว่ามีปัญหาบาดเจ็บรบกวน จนถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 79 ซึ่งคงต้องเช็คความฟิตอีกครั้ง แต่ถ้าไม่มีปัญหาอะไรมาก ยังไงเขาก็จะกลับมาเฝ้าเสาแน่นอน แต่ถ้ายังไม่พร้อม สรานนท์ อนุอินทร์ ก็สแตนด์บายรออยู่


แบ็กขวา: สันติภาพ จันทร์หง่อม


   โทษฐานที่ต้องเปิดโหมดรุกบุกแหลกตั้งแต่วินาทีแรก มันจึงทำให้แบ็กขวาอย่าง ศุภนันท์ บุรีรัตน์ ที่เติมเกมได้สะแด่วแห้วคงต้องนั่งก่อน เพื่อเปิดโอกาสให้ สันติภาพ จันทร์หง่อม ซึ่งมีจุดเด่นที่วินัยในแนวรับลงเล่นแทน และที่สำคัญการที่ค้าแข้งอยู่ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ร่วมกับ อิ๊กห์ซาน ฟานดี้ หัวหอกตัวความหวังสิงคโปร์ น่าจะทำให้รู้วิธีรับมือเป็นอย่างดี จึงน่าจะทำให้แดนบนของไทย ไม่ต้องพะวงอะไรมากนัก


เซนเตอร์ฮาล์ฟ: กฤษดา กาแมน


   หากไม่นับจังหวะแฮนด์บอลโดยไม่เจตนาจนกลายเป็นจุดโทษในเกมเสมอจีน 1-1 นอกนั้นผลงานของ กฤษดา ในบทบาทเซนเตอร์ฮาล์ฟแทบจะไม่มีอะไรพลาดผิดเลย ดังนั้นการเจอสิงคโปร์ เขาก็ควรจะได้รับโอกาสต่อเนื่อง เพราะนอกจากจะคอยดักบอลในแนวรับ เขายังสามารถขยับขึ้นสูงเพื่อช่วยเกมรุกได้อีกต่างหาก ซึ่งจะทำให้ทางเลือกของไทย ในแดนหน้ามีเพิ่มมากขึ้นอีกหนึ่งคน


เซนเตอร์ฮาล์ฟ: สุพรรณ ทองสงค์


   ฟอร์มของ สุพรรณ อยู่ในระดับมาตรฐาน แม้จะไม่สามารถช่วยให้ไทย รอดพ้นจากการถูกจีน ตีเสมอ 1-1 แต่โดยรวมแล้วเขาสามารถจัดการเกมรุกของทัพมังกรทองได้อยู่หมัด ดังนั้นการเจอสิงคโปร์ ยังไงก็น่าจะได้ลงเล่นแบบต่อเนื่อง


แบ็กซ้าย: ธีราทร บุญมาทัน


   'คลาส' ของ ธีราทร สามารถช่วยทีมได้เสมอ และในเกมกับจีน เขาก็แสดงให้เป็นที่ประจักษ์ถึงความเก่งกาจที่มี โดยเฉพาะจังหวะการรับมือกับสถานการณ์ที่กดดัน ซึ่งการพบสิงคโปร์ กัปตันช้างศึกคนนี้นี่แหละจะเป็นอีกหนึ่งคีย์แมนสู่ชัยชนะของทีม




กองกลาง: สารัช อยู่เย็น


   คัมแบ็กสู่การเป็นตัวจริงให้ทีมชาติไทย ได้อย่างภาคภูมิ คุมจังหวะในแผงมิดฟิลด์ได้เนียนตา แม้ว่าครึ่งหลังในเกมเสมอจีน 1-1 จะเน้นไปทางช่วยเกมรับเสียส่วนใหญ่ แต่เมื่อกลับมาเจอสิงคโปร์ ในบ้านตัวเอง ประโยชน์ของ สารัช จะเพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว


กองกลาง: วีระเทพ ป้อมพันธ์


   เกมรับช่วยดักบอลได้เยอะ เกมรุกก็สามารถจ่ายทะลุช่องได้อย่างเฉียบคม วีระเทพ กลายเป็นมิดฟิลด์เบอร์หนึ่งของทัพช้างศึกไปแล้ว และถ้าสิงคโปร์ ปล่อยให้เล่นง่ายๆ รับประกันเลยว่าพวกเขาเตรียมตัวปราชัยได้เลย


กองกลางตัวรุก: ชนาธิป สรงกระสินธ์


   แม้จะมีชื่อในเกมกับจีน แต่ท้ายที่สุด ชนาธิป ก็ทำได้เพียงมองเพื่อนร่วมทีมลงสนาม ดังนั้นในการเผชิญหน้าสิงคโปร์ หากว่าเพลย์เมเกอร์ชาวนครปฐม ผ่านความฟิต ยังไงก็ต้องส่งเขาไปโลดแล่นบนฟลอร์หญ้า เพราะทีเด็ด-ทีขาดของหมอนี่สามารถสร้างความแตกต่างได้ทุกวินาที


กองหน้าฝั่งขวา: เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์


   ในเกมบุกเสมอจีน 1-1 เขาแทบไม่ได้โชว์ฟอร์มที่แท้จริงออกมาเลย ก่อนจะถูกถอดออกในนาทีที่ 79 ดังนั้นการกลับมาเล่นที่ ราชมังคลากีฬาสถาน - เจริญศักดิ์ คงจะได้ออกสตาร์ตตัวจริงแบบต่อเนื่อง และด้วยมาตรฐาน แนวรุกจาก เมืองทอง ยูไนเต็ด น่าจะเป็นอีกหนึ่งทีเด็ดทางกราบขวาแน่นอน   


กองหน้า: ธีรศิลป์ แดงดา


   มาซาทาดะ อิชิอิ สร้างความฉงนใจให้แฟนฟุตบอลชาวไทย ด้วยการไม่ส่ง ธีรศิลป์ ลงสนามสักวินาทีเดียวในเกมกับจีน ทั้งๆ ที่หัวหอกจาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด คือนักเตะประเภท 'แมตช์ วินเนอร์' ที่สามารถเปลี่ยนเกมได้ด้วยจังหวะเดียว ดังนั้นจึงมีโอกาสสูงลิ่วที่ศูนย์หน้าวัย 36 ปี จะได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงกับสิงคโปร์ แม้จะอยู่ไม่ครบ 90 นาที แต่ประโยชน์ของพี่แกนั้นมหาศาลและคงจะช่วยให้ช้างศึกเก็บ 3 คะแนนได้แน่นอน


กองหน้าฝั่งซ้าย: สุภโชค สารชาติ


   นี่คือนักเตะที่ฟอร์มไฉไลที่สุดในเกมเสมอจีน 1-1 ไปกับบอลได้ดี มีส่วนร่วมกับเกมรุกมากมาย ซึ่งนั่นคือผลพวงจากการค้าแข้งที่ เจลีก และได้เล่นอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งแนวรุกชาวศรีสะเกษ เป็นอีกหนึ่งคนที่จะแปรเปลี่ยนผลการแข่งขันให้ไทย ในบั้นปลาย


发表评论:

◎欢迎参与讨论,请在这里发表您的看法、交流您的观点。